อันดับแรกที่ต้องทำหากได้มาเที่ยวกาญจนบุรีคือ การมาเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแคว และแอคติ้งโพสต์ท่าเก๋ๆ ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เพราะสะพานข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้น่ะ เป็นไฮไลท์ของการเที่ยวเมืองกาญจนบุรีเชียวนะ ฉะนั้น ใครที่ได้มาเที่ยวที่กาญจนบุรีแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปกับสะพานข้ามแม่น้ำแควก็เหมือนมาไม่ถึง สิ่งสําคัญคือที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แลนด์มาร์คเก๋ๆ ที่เอาไว้เป็นแบคกราวด์ในรูปถ่ายของคุณเท่านั้น แต่มันคือแบ็คกราวด์ของชาติ ในฐานะหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงบทบาทด้านหนึ่งของกาญจนบุรีได้เป็นอย่างดี
สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ประมาณ 61,700 คน สมทบด้วยกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า และอินเดีย อีกจำนวนมาก มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่ จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง
สะพานข้ามแม่น้ำแควใช้เวลาสร้างเพียง 1 เดือน โดยนำเหล็กจากมลายูมาประกอบเป็นชิ้น ๆ ตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็ก 11 ช่วง หัวและโครงสะพานเป็นไม้ มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2486 ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 ได้ถูกทิ้งระเบิดหลายครั้งจนสะพานหักท่อนกลาง ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง รัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมใหม่ด้วยเหล็กรูปเหลี่ยม เมื่อปี พ.ศ. 2489 จนสามารถใช้งานได้ ปัจจุบัน มีการยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ